ทำไมยุคคอมมิวนิสคนจีนถึงหนีมาฮ่องกงปีละกลายล้านคน จนต้องปิดพรมแดน เพราะอะไร

คนหนีคอมมิวนิสต์จากเรื่องหลักๆหลายช่วงคือ ช่วงแรกพวกคนชั้นกลางคนชั้นสูงที่ถือครองที่ดินกิจการค่อนข้างมาก โดนตราหน้าว่าเอารัดเอาเปรียบคนจน ซึ่งก็มีทั้งใช่และไม่ใช่ แต่ต่างก็โดนหางเลขไปหมด ต้องหอบเงินหอบทองหนี ไปต่างชาติ หนีไม่ทันก็โดนริบทรัพย์ถูกไปใช้แรงงานหนัก ต่อมาก็ความหิวโหยจากภาวะสงครามกลางเมืองไม่หยุดหย่อนและจากนโยบายบริหารประเทศผิดพลาด  ช่วงท้ายๆก็ช่วงปฏิวัติวัฒนธรรม คนที่ยังฝักใฝ่ด้านความเชื่อจีนโบราณหรือนับถือศาสนา ถูกกวาดล้าง ไปใช้แรงงานหนัก ถูกไล่ฆ่าตายเป็นอันมาก หากยังฝักใฝ่จะนับถือในความเชื่อก็ต้องหนี

ส่วนชาวจีนในไทย มาหลายช่วงก่อนหน้ายุคคอมมิวนิสต์นานมากแล้ว น่าจะตั้งแต่ยุคก่อนประวัติศาสตร์ไทย แต่ที่ค่อนข้างมากก็ช่วงมองโกลรุกราน ประมาณช่วงสุโขทัย ปะปนอยู่กับไตสิบสองปันนา  ก็เริ่มเส้นทางเข้าสู่เขตแดนอาณาจักรที่เป็นเขตแดนประเทศไทยกันบ้าง  แล้วก็เริ่มเข้ามาเรื่อยๆ จนถึงสมัยอยุธยาเข้ามามากอีกโดยมากจากด้านการค้าจากทางเรือสำเภา จำนวนมากก็เริ่มลงหลักปักฐาน ทั้งส่วนอาณาจักรอยุธยาและทั่วไปในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เกิดเป็นชาวจีนโพ้นทะเล ที่ติดตามเรือออกมาแล้ว ก็ไม่คิดกลับไปอีกเลย การออกผจญภัยสู่ท้องทะเล น่าจะเริ่มจากยุคเจิ้งเหอที่เฟื่องฟูเรื่องการเดินทะเลเป็นอันมาก พวกโพ้นทะเลมีจำนวนมากก็ได้ดิบได้ดีร่ำรวย ญาติพี่น้องได้ข่าวก็ติดตามเข้ามาอยู่ด้วย เกิดเป็นชาวจีนโพ้นทะเลหลายเจเนอเรชั่นต่อมา ซึ่งลูกหลานชาวจีนโ้พ้นทะเลบางท่านได้มีบทบาทสำคัญในแผ่นดินไทยคือ พระเจ้าตากสินมหาราช พื้นเพดั้งเดิมท่านเป็นชาวจีนแต้จิ๋ว  จึงเป็นจุดเริ่มต้นสำคัญอีกครั้งในการเข้ามาของชาวจีนโดยเฉพาะชาวจีนแต้จิ๋ว ที่เข้ามามากขึ้นๆเรื่อยๆเพราะมีชุมชนญาติพี่น้องในแผ่นดินสยามจำนวนมาก  จนมาถึงช่วงประมาณร.4-ร.5 ในแผ่นดินจีนเป็นปลายราชวงศ์ชิงเกิดความวุ่นวายจากการบริหารประเทศที่ไร้ประสิทธิภาพและเป็นช่วงนักล่าอาณานิคมรุกราน ประชาชาชนจีนเดือดร้อนจากการอดอยากไปทั่วแผ่นดิน พื้นที่ที่ได้รับผลกระทบมากที่หนึ่งคือบริเวณซัวถัว ชาวแต้จิ๋วจำนวนมากจึงอพยพออกมาครั้งใหญ่ โดยเฉพาะที่ประเทศไทย เพราะมีญาติจำนวนมากลงหลักปักฐานไว้ตั้งแต่สมัยพระเจ้าตาก  และก็เข้ามาเรื่อยๆจนถึงประมาณร.6-ร.7 ก็เริ่มซาและยุติที่จะเข้ามาอีกอาจเนื่องด้วยเข้าสู่ช่วงสงครามโลก ชาวแต้จิ๋วก็กระจายไปยังทั่วประเทศและมีการแต่งงานกับชาวไทยและชาวท้องถิ่น และกลายเป็นกลุ่มชาวไทยเชื้อสายจีนในที่สุด และจำนวนมากก็ประสบความสำเร็จด้านธุรกิจรวมถึงตำแหน่งทางการเมือง  ชาวไทยเชื้อสายจีน90%จึงเป็นชาวจีนแต้จิ๋ว ไม่ได้พูดจีนกลาง  และมีความแปลกแยกกับจีนแผ่นดินใหญ่พอสมควร มีสำนึกความเป็นคนไทยไปเสียสิ้น ไม่เหลือสำนึกความเป็นชาวจีนอีกแล้ว

ในช่วงคอมมิวนิสต์  มีสงครามกลางเมือง ในจีน คนจีนกลุ่มใหญ่อีกกลุ่มอพยพเข้ามา แต่พวกนี้ไม่ใช่แต้จิ๋ว เป็นพวกฝ่ายก๊กมินตั๋งต่อสู้ถอยร่นเข้ามา เป็นพวกพูดจีนกลาง เนื่องด้วยก๊กมินตั๋งเป็นฝ่ายพ่ายแพ้คาราวานทั้งกองทัพและชาวบ้านที่ฝักใฝ่ก๊กมินตั๋งอพยพไปลงหลักปักฐานที่เกาะไต้หวัน กองทัพอีกจำนวนหนึ่งถอยร่นมาอยู่ชายแดนตอนเหนือของไทย อาจเป็นกองระวังหลังที่กะพลีชีพจนทัพล่มสลายไป เนื่องด้วยถือว่าไทยเป็นพันธมิตรฝ่ายเสรีประชาธิปไตยจึงรับไว้ จนเกิดเป็นชุมชนขึ้นมา โดยเฉพาะหนาแน่นที่เขตชายแดนเชียงราย ภายหลังก็กลายเป็นคนไทยในที่สุด ชาวจีนชายแดนกลุ่มนี้ มักส่งลูกหลานไปเรียนต่อไต้หวัน ส่วนจีนคอมมิวนิสต์ก็ไม่ใช่จีนแต้จิ๋วเป็นพวกพูดจีนกลางเหมือนกัน พวกนี้มักแทรกซึมเชิงสายลับทั่วประเทศ ประสบความสำเร็จในการตั้งมั่นแถบภาคอีสานและชายแดนใต้  

ต่อมาคอมมิวนิสต์มีนโยบายปิดประเทศ และเป็นคนละขั้วค่ายกับไทย  ความสัมพันธ์ระหว่างพวกจีนโพ้นทะเลกับจีนแผ่นดินใหญ่จึงแทบจะยุติลงโดยสิ้นเชิง จนไม่กี่ปีนี้จีนเปิดประเทศ ก็เฮโลกันมาอีกรอบในฐานะนักท่องเที่ยว ซึ่งก็ปรากฏว่ามีความแปลกแยกทั้งวิธีคิดและประเพณีกับชาวจีนโพ้นทะเลเป็นอย่างมาก จนแทบจะเป็นคนละสปีชีส์กัน  แต่คนจีนก็เริ่มเปิดประเทศได้พักใหญ่ ก็เริ่มมีความโมเดิร์นและค่อยๆเข้ากับชาวจีนโพ้นทะเลมากขึ้นๆ